วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

6วิธีเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างปลอดภัย


👄1. ก่อนอื่นเลยต้องดูว่าเป็นเครื่องสำอางเถื่อนมั๊ย 
ดูจากเครื่องหมายรับรองจากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ ปัจจุบันนี้ เครื่องสำอางที่ได้มาตรฐานควรได้การรับรองคุณภาพจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดังนั้นเวลาซื้อควรดูเครื่องหมาย อย.บนฉลากซะก่อน ถ้าไม่มีอย่าซื้อเด็ดขาด เพราะเครื่องสำอางที่ไม่ผ่านการตรวจสอบอาจเป็นเครื่องสำอางเถื่อน และผสมสารต้องห้ามที่มีพิษต่อร่างกาย คงไม่คุ้มกันแน่กับปัญหาหน้าพัง!! ถ้าคิดจะซื้อมาใช้

👄2. ให้ดูวันหมดอายุ ส่วนผสม ชื่อบริษัทผู้ผลิต ที่อยู่ หรือบริษัทผู้นำเข้า
เริ่มดูจากวันหมดอายุและวันผลิตที่ระบุบนบรรจุภัณฑ์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ โดยทั่วไปเครื่องสำอางมีอายุหลังการผลิตนานถึง 3-5 ปีเชียวล่ะ แต่นั่นคืออายุของประสิทธิภาพเครื่องสำอางขณะที่คุณยังไม่เปิดใช้ แต่ถ้าหากเปิดใช้แล้วมันก็จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้นและมีอายุการใช้งานน้อยลง (ดูเพิ่มเติมที่: อายุเครื่องสำอางแต่ละชนิดที่เปิดใช้แล้ว) ดังนั้น เราควรเขียนวัน/เดือน/ปี ที่เราเปิดใช้ครั้งแรกเอาไว้ที่เครื่องสำอาง เพื่อจะได้เตือนความจำ และเช็คอายุเครื่องสำอางได้ง่ายขึ้น
จากนั้นก็มาดูส่วนผสม ซึ่งจะบอกได้ว่าในเครื่องสำอางที่เรากำลังจะควักเงินซื้อนั้น มีส่วนผสมที่เราแพ้หรือไม่ เช่น บางคนอาจแพ้เครื่องสำอางที่มีน้ำหอม หรือแอลกอฮอล์ เป็นต้น
ชื่อบริษัทผู้ผลิต ที่อยู่ หรือบริษัทผู้นำเข้า เป็นอีกส่วนที่ควรใส่ใจ เพื่อเป็นการแสดงความรับผิดชอบของเจ้าของผลิตภัณฑ์ ในกรณีที่มีปัญหาในการใช้ผลิตภัณฑ์ หรือเกิดอันตรายจากเครื่องสำอางนั้น จะได้โทรไปสอบถามหรือร้องเรียนผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าได้

👄3. ต้องให้ความสำคัญกับการอ่านฉลากวิธีใช้
ต้องศึกษาวิธีใช้อย่างละเอียด เพื่อที่จะได้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า และปลอดภัย ว่าควรใช้ในปริมาณเท่าใด กี่ครั้งต่อวัน ใช้ที่จุดไหนของร่างกาย เพื่อให้ใช้ได้ถูกต้อง เช่น ครีมบำรุงผิวหน้าบางชนิดต้องใช้ทาก่อนนอน เพื่อมิให้ถูกแสงแดด เพราะแสงแดดอาจกระตุ้นให้เกิดอาการข้างเคียง ที่ไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้น หากไม่ศึกษาวิธีใช้ให้ถี่ถ้วน ทาครีมนี้ตามความพอใจ หากทาตอนกลางวันแล้วถูกแสงแดด ก็อาจจะกลับกลายเป็นผลเสีย เพราะใช้ไม่ถูกวิธีนั่นเอง
สำหรับคนที่แพ้ง่าย แนะนำว่า ควรพยายามหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ซึ่งเครื่องสำอางหลายยี่ห้อจากต่างประเทศ จะมีระบุชัดอยู่ในบรรจุภัณฑ์ว่า “Alcohol Free” แปลว่าในเครื่องสำอางชิ้นนั้นปราศจากแอลกอฮฮล์ แต่เครื่องสำอางที่ผลิตในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีแจ้งแบบนี้

👄4. ระมัดระวังข้อควรระวังหรือคำเตือนบนฉลาก
เครื่องสำอางบางชนิดจะต้องแสดงคำเตือนที่ฉลากด้วย แสดงว่าต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ดังนั้น ควรศึกษาคำเตือน ให้เข้าใจอย่างถี่ถ้วน และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
เครื่องสำอางบาง ประเภทมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หากผู้บริโภคใช้ไม่ถูกวิธี กฎหมายจึงมีข้อกำหนดที่เข้มงวดกว่าเครื่องสำอางทั่วไปคือ จัดเป็นเครื่องสำอางควบคุมพิเศษ และเครื่องสำอางควบคุม โดยจะต้องมีข้อความแสดงประเภท ของเครื่องสำอางที่ฉลากอย่างชัดเจน ผู้บริโภคควรใช้เครื่องสำอางเหล่านี้ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ

👄5. ทดสอบการแพ้เครื่องสำอางก่อนตัดสินใจซื้อ 
มีเครื่องสำอางหลายประเภทที่แม้จะเป็นยี่ห้อดียี่ห้อดัง มีตรารับรองมาตรฐาน ก็อาจไม่ถูกกับผิวของคุณได้ เพราะผิวของแต่ละคนก็แพ้เครื่องสำอางแตกต่างกัน ดังนั้น คุณจึงควรทดสอบก่อนตัดสินใจซื้อ นอกจากการดูที่ส่วนผสมแล้ว คุณควรทดสอบการแพ้เครื่องสำอางด้วยตัวเองด้วยวิธีง่ายๆและเป็นวิธีที่ถูกต้องคือ ให้นำเครื่องสำอางที่ต้องการจะซื้อ มาป้าย ฉีด ยา หรือทา ลงบริเวณผิวเนื้ออ่อนๆ อย่างหลังใบหูหรือท้องแขน อย่างน้อยที่สุดจะต้องใช้เวลา 2030 นาที ถ้าหากเกิดอาการแพ้ ผิวหนังบริเวณนั้นจะมีปฏิกิริยา เช่น เกิดรอยแดง ผื่น หรือรู้สึกระคายเคือง ดังนั้น หากจะเทสต์จริงๆ ไปขอเทสต์ก่อน (เพื่อทิ้งระยะให้สารเคมีทำปฏิกิริยาสักนิด) จากนั้นไปเดินดูของอื่นๆ จนจะกลับ หากผิวไม่แพ้จึงค่อยกลับไปซื้อค่ะ

👄6. ซื้อเครื่องสำอางจากแหล่งขายที่เชื่อถือได้ ไม่ว่าจะเป็นที่เคาน์เตอร์ของผลิตภัณฑ์นั้นๆ 
ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านค้าต่างๆ รวมถึงตลาดนัด ในปัจจุบันเรายังพบช่องทางการขายเครื่องสำอางออนไลน์ตามเว็บไซต์ต่างๆ มากมาย อย่างไรก็ตาม ในความหลากหลายของแหล่งซื้อขายนี้ย่อมมีทั้งดีและไม่ดี คุณก็ควรพิจารณาแหล่งซื้อขายที่มีความน่าเชื่อถือ มีสถานที่ตั้งและช่องทางการติดต่อที่ชัดเจน มีบริการที่ดีทั้งในระหว่างการขายและหลังการขาย และแน่นอนว่าต้องขายผลิตภัณฑ์ที่เป็นของแท้ และเป็นตัวแทนจำหน่ายแบรนด์นั้นๆ อย่างถูกต้อง ซึ่งวิธีพิจารณาต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้เราห่างไกลจากโอกาสเสี่ยงที่เราจะเจอผลิตภัณฑ์ปลอม ไม่ได้มาตรฐาน เกิดการแพ้ และไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้ขายได้


👀นอกจากนี้ สาวๆควรรู้จักกับความหมายของเครื่องสำอางตามกฏหมายก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก เพื่อที่จะได้ไม่หลงเชื่อคำโฆษณาเกินจริง พวกเครื่องสำอางเถื่อนและปลอมทั้งหลาย ดังนี้คือ ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 โดยมีคำจำกัดความ ตามกฎหมายว่า หมายถึง วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ ทา ถู นวด โรย พ่น หยอด ใส่ อบ หรือกระทำด้วยวิธีอื่นใด ต่อส่วนหนึ่ง ส่วนใดของร่างกายมนุษย์ เพื่อความสะอาด ความสวยงาม หรือส่งเสริมให้เกิดความสวยงาม และรวมตลอดทั้งเครื่องประทิ่นผิวต่างๆ แต่ไม่รวมถึงเครื่องประดับและเครื่องแต่งตัวซึ่งเป็นอุปกรณ์ภายนอกร่างกาย

👉👉👉พอจะสรุปอย่างง่ายๆ ได้ว่า

เครื่องสำอางต้องเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับร่างกายมนุษย์ เพื่อความสะอาด และความสวยงาม เท่านั้น ผลิตภัณฑ์ที่กล่าวอ้างสรรพคุณเกินกว่านี้ เช่น อ้างว่าสามารถบำบัด บรรเทา รักษาโรค ป้องกันโรค หรือมีผลต่อโครงสร้าง หรือการกระทำหน้าที่ต่างๆของร่างกายอันเป็น สรรพคุณทางยา ผลิตภัณฑ์นั้นจะต้องจัดเป็นยา ไม่ใช่เครื่องสำอาง

💨💨💨ตัวอย่างเช่น โลชั่นปลูกผม ครีมเสริมสร้างทรวงอก ครีมลดไขมัน สบู่ลดความอ้วน โลชั่นกระชับจุดซ่อนเร้น ครีมฆ่าเชื้อโรค ลดอาการผิวหนังอักเสบ แก้คัน ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ มีการแสดงสรรพคุณทางยา ต้องขึ้นทะเบียนเป็นยาและปฎิบัติตามพระราชบัญญัติยาฯที่มีความเข้มงวดกว่าพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง ฯค่ะ

สำหรับวิธีการเลือกซื้อเครื่องสำอางอย่างปลอดภัยที่ได้แนะนำไว้ข้างต้นนี้ ยังไงสาวๆก็อย่าลืม ลองนำไปทำตามนะค่ะ รับรองว่าเพียงเท่านี้สาวๆ ก็สามารถหาซื้อและใช้เครื่องสำอางได้อย่างมั่นใจในความปลอดภัยแล้วล่ะ


วิธีรักษาสิว

👯สิว : 28 วิธีรักษาสิว & 16 สาเหตุของการเกิดสิว !!



👱วิธีรักษาสิวอย่างรวดเร็วในชั่วข้ามคืน ด้วยตนเอง



💁เคล็ดลับ วิธีรักษาสิวอักเสบ แบบเร่งด่วน แบบธรรมชาติ

8 วิธีรักษาสิวให้หาย ของที่ใช้แล้วชอบ อยากแนะนำสำหรับคนเป็นสิว



เมื่อฉัน "สิวเห่อ" วิธีรักษาสิว และลดรอยดำ

แต่งหน้าสำหรับมือใหม่





สวัสดีคะ เห็นชื่อหัวข้อแล้ว สาวๆพึ่งหัดแต่งหน้าต่างกดเข้ามา
ในฮาวทูนี้ก็อย่างที่บอกไปตามชื่อหัวข้อเลย
จะมาทำฮาวทู สอนเพื่อนๆที่พึ่งเริ่มหัดแต่งหน้า
ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้และขั้นตอนจะค่อนข้างน้อย
แต่เทคนิคครบนะคะ ซึ่งฮาวทูนี้ ฟ้าได้นำเครื่องสำอางค์ต่างๆ
ที่หยิบใช้บ่อยในช่วงหัดแต่งหน้าแรกๆมาใช้ให้ได้เห็นกันด้วยคะ
ยังไงลองดูกันเลยนะคะ

All cosmetic i'm using
Facial Sun Protection SPF40 PA+++ Minus-Sun
Foundation Primer - Laura Mercier
Perfect fit concealer - ZA
Mat lumiere extreme - Chanel (เบอร์20 Beige rose)
Drawing eye brow - Etude
Perfect shadow - ARCHITA (สี Blondie)
Powerpoint eye pencil - MAC (สี Engraved)
Long lash mascara - Daiso
Powder brush - MAC (สี Fleur)
Shimmer bronzing powder - Essence
Pancake powder - MTI
Love you cherie lipstick - Bisous (เบอร์04)


ช่องทางในการติดตาม

Instagram: falala_fah




แท็กแต่งหน้า

http://women.sanook.com/54445/   

หน้าใสไร้สิว


สูตรที่ 1 ทาน้ำมะนาวบนสิว
  สูตรนี้อาจจะแสบ ๆ คัน ๆ นิดหน่อย แต่รับรองว่าได้ผลชัวร์ เพราะในน้ำมะนาวจะมีกรดผลไม้ (AHA) ที่จะสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียและผลัดเซลล์ผิวใหม่ได้ ทั้งนี้เวลาสิวหายก็จะไม่มีรอยด่างดำตามมาด้วย เพียงแค่บีบน้ำมะนาวใส่ในถ้วยเล็ก ๆ และใช้สำลีชุบน้ำมะนาวเล็กน้อยทาลงบนหัวสิว ทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาทีแล้วค่อยล้างออก โดยให้ทำทุกวันก่อนนอน สิวจะยุบเร็วทันใจแน่นอนค่ะ

            
               สูตรที่ 2 พอกหน้าด้วยอบเชยและน้ำผึ้ง
นำอบเชยและน้ำผึ้งมาผสมในอัตราส่วนที่เท่ากัน จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 30-40 นาที แล้วค่อยล้างหน้าให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยลดการอักเสบของสิว ทำให้สิวยุบตัวลง ทั้งนี้ยังจะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิว ซึ่งนอกจากจะช่วยลดการอักเสบของสิวที่เป็นอยู่แล้วยังจะช่วยยับยั้งการเกิดสิวใหม่ได้ด้วย





สูตรที่ 3 มาสก์หน้าด้วยมะเขือเทศและโยเกิร์ต
    นำมะเขือเทศสด ๆ ไปปั่นรวมกับโยเกิร์ตให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ทำทุกวันก่อนนอน สิวอักเสบจะยุบเร็ว และจะมีการเซลล์ผิวใหม่ทำให้หน้าใสแลดูมีน้ำมีนวล



สูตรที่ 4 พอกหน้าด้วยดินสอพองกับน้ำมะนาว
นำดินสอพองมาผสมกับน้ำมะนาวพอข้น ๆ เหนียว ๆ จากนั้นให้นำมาทาพอกทิ้งไว้ให้ทั่วใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วค่อยล้างออกให้สะอาด สูตรนี้จะช่วยให้สิวอักเสบแห็งเร็วและยุบได้เร็วทันใจ แถมยังช่วยให้หน้าเนียนนุ่มและรูขุมขนกระชับขึ้นด้วย 





 😆😆ได้สูตรวิธีจัดการสิวให้หายเร็วทันใจกันไปแล้ว คราวนี้สาว ๆ ก็ไม่ต้องกังวลใจเรื่องสิวกันอีกต่อไปแล้วล่ะค่ะ ถ้าสิวมาเมื่อไรก็เอาสูตรเหล่านี้ไปจัดการกันได้เลย รับรองว่าสิวจะยุบเร็วทันใจ และถ้าทำบ่อย ๆ หน้าคุณก็จะยิ่งสวยใสไรสิว จนใคร ๆ ก็ต้องอิจฉาแน่นอน



How to แต่งหน้าไปมหาลัย


" เปิดเทอมแล้วต้องตื่นเช้าไปอีกก x___X หลายๆคนคงไม่อยากไปเรียนแบบหน้าสด วันนี้มิ้นเลยมาสอนแต่งหน้าไปมหาลัยที่สามารถแต่งได้อย่างรวดเร็วและทำให้เรามีออร่าด้วย จะเป็นยังไงไปดูกันเลยยย "



เคยเป็นมั้ย ตื่นไปเรียนว่ายากแล้ว ตื่นให้ทันไปเรียนยากกว่า
ทุกเช้าจะมานั่งประดิษฐ์หน้าคงไม่ทัน
รีบแต่งหน้าเท่านั้นคือนิพพาน

เวลาแต่งหน้าไปมหาลัยเราจะเน้นเรื่องความติดทน
ของรองพื้นเป็นหลักเลย ที่แน่ๆคือห้ามดรอป ห้ามหมอง
บางทีเรียนนาน ส่วนมากเลือกใช้พวกบีบีซีซีดีดีครีม
เนื่องจากเบา แล้วก็ติดทนนาน ตอนนี้ใช้ Beautylush 
DD Cream สี 01 หน้าผ่องมาก ผ่องแรง



มาแล้วจ้าาาาาาาา ตามคำเรียกร้องขอน้องๆ ทุกคน

พี่ไอซมาแต่งหน้าไปมหาลัยให้ดูละจ้าา ย้อนวัยไปไกลมาก 5555
โดยเราก็จะเน้นลุคใสๆ นะ เป็น freshy ปี 1 พึ่งเข้ามหาลัยงี้

5 เครื่องสำอางถูกและดี

เครื่องสำอางสำหรับสาว ๆ ทุกวันนี้เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่ 5 ของใครหลายคนไปซะแล้ว ก็แหม... ไอเทมที่มีไว้แล้วสวย ใคร ๆ ก็อยากมีจริงไหมล่ะคะ แต่ทว่าเครื่องสำอางทุกวันนี้ก็ใช่ว่าจะถูก ๆ (เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงรู้ดี T_T) เพราะบางชิ้นถึงกับราคาเป็นหลักพัน บางชิ้นเกือบหมื่นกันเลยก็มี แต่ทั้งนี้สาว ๆ ที่มีงบน้อยก็ไม่ต้องน้อยใจไปค่ะ เพราะเครื่องสำอางที่ถูกและดีนั้นยังมีอยู่ในโลก ซึ่งวันนี้ฟ้าได้ลิสต์มาให้สาว ๆ ไว้เป็นตัวเลือกกันแล้ว งานนี้จัดให้เน้น ๆ สวยครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้ากันเลย แถมไม่ลำบากเงินในกระเป๋าอีกด้วย ไปดูกัน !

1. Essence Stay All Day 16h Long-Lasting Makeup

              รองพื้นถูกและดีที่เหล่าบิวตี้กูรูต่างก็แนะนำ ตัวนี้เด็ดจริงอะไรจริงค่ะสาว ๆ เพราะเป็นเนื้อลิควิดเกลี่ยง่าย แห้งไว ปกปิดดี และติดทน ทาแล้วให้ผิวดูสวยเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องใช้แป้งทาทับก็ยังได้ แถมยังคุมมันเริดอีกด้วยนะพูดเลย ราคาประมาณ 250 บาทเท่านั้นเอง

2. Zendori UV Oil-Free Foundation

แป้งผสมรองพื้นที่ใคร ๆ ก็สอยมาไว้ในกรุ เพราะตัวนี้ขึ้นชื่อว่าปกปิดได้เนียนกริบ แถมยังคุมมันได้ดี แม้ไม่ต้องลงรองพื้นหน้าก็สวยเด้งได้ทั้งวัน แถมราคาก็ถูกเว่อร์ ตลับละประมาณ 50-60 บาทเท่านั้นเองค่ะสาว ๆ


3. In2It Sheer Shimmer Blush

  บลัชออนที่สาว ๆ สามารถใช้ได้ทุกวัน ตัวนี้พกติดกระเป๋าแล้วไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ เพราะเม็ดสีแน่น ปัดแล้วแก้มจะแดงระเรื่อ แถมยังมีชิมเมอร์ทำให้แก้มมีประกาย ได้ลุคที่ดูสวยใส ดิวอี้สุด ๆ เลยล่ะค่ะ ราคาประมาณ 160 บาทเท่านั้นเอง


4.Maybelline Volum’ Express The Rocket

มาสคาร่าตัวเด็ดที่ช่วยให้ขนตางอนเด้ง ดูหนา และยาวขึ้น แถมยังติดทนนานมาก ๆ เลยล่ะค่ะสาว ๆ รับรองตั้งแต่เช้ายันเย็นไม่มีเยิ้มแน่นอน ราคาประมาณ 200 กว่าบาทค่ะ

5.4U2 4 Color Eyeshadow

อายแชโดว์ราคาน่าคบ ที่คุณภาพคุ้มเกินราคา ตัวนี้สาว ๆ หลายคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าใช้แล้วติดทนตลอดทั้งวัน แถมเม็ดสียังสวยชัด และมีเฉดสีให้เลือกเยอะแยะมากมาย เรียกได้ว่ามีให้เลือกแต่งกันได้ทุกลุคเลยล่ะ ตลับหนึ่งราคาประมาณ 270 บาทเท่านั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

ทักทายกันค่ะ

💜💜สวัสดีเพื่อนๆทุกคนนะคะ 💜💜

บล็อกนี้เป็นบล็อกของฟ้าเองค่ะ สร้างขึ้นเพื่อให้ความรู้ต่างๆเกี่ยวกับวิธีการแต่งหน้า การใช้เครื่องสำอาง และวิธีในการเลือกซื้อเครื่องสำอางสำหรับผู้หญิงเรากันนะคะ
ยินดีต้อนรับนักเรียนทุกคนค่ะ